มอร์นิ่งสตาร์ เผยนักลงทุนขาย LTF ครึ่งเดือนมกราคม 65 กว่า 6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวจากช่วงเดียวกันในอดีต คาดทั้งเดือนม.ค.แตะหมื่นล้านบาท ยันไม่กระทบตลาดแค่พักไปลงในกองทุนอื่น SSF ,RMF เหตุเงินเฟ้อกดดันผลตอบแทน
นางสาวชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์อาวุโส บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย) เปิดเผยถึง เม็ดเงินจากกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) ที่นักลงทุนถือครองครบ 7 ปีปฏิทินตามเกณฑ์เงื่อนไข พบว่าในช่วงครึ่งแรกของเดือนม.ค.2565 มีเงินไหลออก 6 พันล้านบาท จากยอดทั้งหมดที่สามารถขายคืนได้ 2.2 หมื่นล้านบาท ดังนั้นคาดว่าภายในเดือนมกราคมปีนี้ จะมีเงินไหลออกจาก LTF ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท
” ในปีนี้เงินไหลออกจากกองทุน LTF เร็วกว่าอดีต เมื่อเทียบกับเดือน ม.ค. 2562 และ ม.ค. 2561 เงินไหลออกสุทธิจากกองทุน LTF ประมาณ 2 พันล้านบาท ขณะที่ปี 2563 และปี 2564 ไม่มีกอง LTF ที่ครบกำหนดขายออก ซึ่งประเมินว่าจะมีเม็ดเงินที่ไหลออกจาก LTF ภายในเดือน ม.ค.อาจถึง 1 หมื่นล้านบาท ”
อย่างไรก็ตาม เงินที่ไหลออกจากกองทุน LTF ส่งผลต่ออุตสาหกรรมรวมไม่มากนัก เพราะเป็นการกลับเข้ามาลงทุนในหลายกองทุน ซึ่งรวมถึงกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ( RMF ) หรือกองทุนรวมเพื่อการออมระยะยาว ( SSF ) เนื่องจากปัจจัยเรื่องของเงินเฟ้อกดดัน การถือเงินสดไว้จึงไม่ใช่คำตอบสำหรับคนที่อยากได้ผลตอบแทนระยะยาว
มอร์นิ่งสตาร์ เผยสถานะกองทุน LTF ณ สิ้นปี 2564 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 3.6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.3 % จากปี 2563 ตามทิศทางหุ้นไทยที่ปรับตัวขึ้นในปีที่ผ่านมา โดยในปี 2564 มีเงินไหลออกจากกองทุน LTF ทั้งสิ้น 1.9 หมื่นล้านบาท และเป็นการไหลออกในไตรมาส 4/64 ถึง 5,300 ล้านบาท
ด้านกองทุน RMF มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม 4.0 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.7% จากไตรมาสก่อนหน้า หรือสูงกว่าสิ้นปี 2563 ถึง 20.5% ในไตรมาสสุดท้ายยังคงมีเม็ดเงินไหลเข้าสูงเช่นทุกปีด้วยมูลค่า 3.2 หมื่นล้านบาท รวมทั้งปี 3.7 หมื่นล้านบาท สูงกว่าปี 2563 ที่ 3.6 หมื่นล้านบาท
ขณะที่กองทุนเพื่อการออม SSF และกองทุน SSFX สิ้นปี 2564 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเกือบ 4 หมื่นล้านบาท โดยในไตรมาส 4/64 เพิ่มขึ้น 42 % จากไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากเป็นช่วงที่มีเงินไหลเข้าสูงสุดของปี ทำให้มีเงินไหลเข้าในไตรมาส 4/ 64 จำนวน 1.1 หมื่นล้านบาท รวมทั้งปี 1.5 หมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นเงินไหลเข้าในเดือนธันวาคม 8.5 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 56% ของทั้งปี
ด้านนายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม รองกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เอเซีย พลัส กล่าวว่า ช่วงต้นปี 2565 ตลาดหุ้นไทยอาจมีแรงกดดันช่วงสั้นๆ จากแรงขายกองทุน LTF ของปี 2559 ที่ครบกำหนดไถ่ถอนราว 1.7 หมื่นล้านบาท ในเดือนแรกของปี 2564 จากเม็ดเงินซื้อสะสมตามมูลค่าตลาด 6.38 หมื่นล้านบาท โดยมีต้นทุนเชิงเปรียบเทียบอยู่ที่ 1,504 จุด อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังมีแรงพยุงจากฟันด์โฟลว์ต่างชาติที่เริ่มเห็น Momentum ไหลเข้าตลาดหุ้นไทยมากขึ้นในเดือน ธ.ค. 2564 ราว 2.3 หมื่นล้านบาท และเริ่มเห็นการซื้อสุทธิต่อเนื่องในเดือน ม.ค.2565
อ้างอิง
https://www.thansettakij.com/money_market